วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559
พสกนิกรร่ำไห้ขณะรอเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ
พสกนิกรร่ำไห้ขณะรอเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่อัญเชิญเคลื่อนจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยาในพระบรมมหาราชวัง
ลูกสาวได้รับจดหมาย ‘ในหลวง’ เมื่อปี 2549 ‘ทรงขอบใจ' ที่เป็นห่วงอาการป่วย
แม่เปิดใจ ลูกสาวได้รับจดหมาย ‘ในหลวง’ เมื่อปี 2549 ‘ทรงขอบใจ'
14 ต.ค. 2559 19:34
ผู้คนในสังคมออนไลน์ แห่แห่รีทวีตภาพและข้อความจาก ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Numkhing230143 เป็นภาพจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง กทม. 10200 ที่ รล. 0003.1/17982 จ่าหน้าซองถึง เด็กหญิงชลลดา พุ่มอิ่ม ระบุข้อความว่า
"ตามที่ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะแพทย์ เพื่อถวายการรักษา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549 นั้น ได้นำความกราบบังคับทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงขอบใจ"
พระราชดำรัส การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ
การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ
เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่
และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง
ในการสร้างเสริมและสะสมความดี
พระบรมราโชวาทพระราชทาน แก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สวนอัมพร 14 สิงหาคม 2525
นายกฯ แถลงการณ์ เรื่องในหลวงเสด็จสวรรคต วันที่ 13 ตุลาคม 2559
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต วันที่ 13 ตุลาคม 2559
วันที่ 13 ตุลาคม 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันที่ปวงชนชาวไทย ไม่แม้แต่จะนึกคิด ไม่แม้แต่จะปรารถนาได้มาถึง เมื่อสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.52 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชนมพรรษา 89 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489
ทั้งนี้ที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยรับรู้ว่า ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และเสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลงก็ได้ปฏิบัติพระราชกิจตามปกติ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อความผาสุกของพสกนิกร
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนพระอาการดีขึ้นตามลำดับ นำความปลาบปลื้มแก่ประชาชนชาวไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุดพระอาการประชวรหาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก ซึ่งในวันนี้ (13 ตุลาคม 2559) จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยตลอดไปนานแสนนาน ดุจวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
ระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เริ่มต้นภายหลังจากมหาสงครามเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คน เป็นความแน่วแน่ มั่นคง องอาจ ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ
ตลอดรัชสมัยในช่วงที่มีการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่รัก ที่เทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปีที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามโดยแท้
บัดนี้ 70 ปีในรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่งของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมายล้นพ้นหาที่สุดมิได้มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทยก็มีมากมายหาที่สุดมิได้เช่นกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลขอประกาศให้ปวงชนชาวไทยร่วมตั้งจิตภาวนาตามศาสนาที่ทุกท่านนับถือ ดั่งที่เราเคยร่วมกันภาวนาถวายพระพร และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวร เพื่ออธิษฐานภาวนา ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์สถิตในสรวงสวรรค์ และทรงอภิบาลคุ้มครองประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสันติสุขดุจดังที่ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยมีมาโดยตลอดภายใต้ร่มมหาพระบารมียาวนาน 70 ปี
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในยามทุกข์โศก น้ำตานองหน้าเพียงใด ประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต้องดำรงต่อไป อย่าให้การสูญเสียครั้งนี้ทำให้พระราชปณิธานของพระองค์ท่านต้องหยุดชะงักลง
การแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยที่ดีที่สุด คือ การเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานที่จะรักษาเอกราช ประชาธิปไตย ความสมบูรณ์พูลสุข และความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท
แถลงการณ์สํานักพระราชวัง
ข่าวในหลวง
วันที่ 13 ตุลาคม 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันที่ปวงชนชาวไทย ไม่แม้แต่จะนึกคิด ไม่แม้แต่จะปรารถนาได้มาถึง เมื่อสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.52 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชนมพรรษา 89 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489
ทั้งนี้ที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยรับรู้ว่า ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และเสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลงก็ได้ปฏิบัติพระราชกิจตามปกติ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อความผาสุกของพสกนิกร
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนพระอาการดีขึ้นตามลำดับ นำความปลาบปลื้มแก่ประชาชนชาวไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุดพระอาการประชวรหาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก ซึ่งในวันนี้ (13 ตุลาคม 2559) จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยตลอดไปนานแสนนาน ดุจวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
ระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เริ่มต้นภายหลังจากมหาสงครามเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คน เป็นความแน่วแน่ มั่นคง องอาจ ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ
ตลอดรัชสมัยในช่วงที่มีการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่รัก ที่เทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปีที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามโดยแท้
บัดนี้ 70 ปีในรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่งของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมายล้นพ้นหาที่สุดมิได้มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทยก็มีมากมายหาที่สุดมิได้เช่นกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลขอประกาศให้ปวงชนชาวไทยร่วมตั้งจิตภาวนาตามศาสนาที่ทุกท่านนับถือ ดั่งที่เราเคยร่วมกันภาวนาถวายพระพร และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวร เพื่ออธิษฐานภาวนา ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์สถิตในสรวงสวรรค์ และทรงอภิบาลคุ้มครองประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสันติสุขดุจดังที่ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยมีมาโดยตลอดภายใต้ร่มมหาพระบารมียาวนาน 70 ปี
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในยามทุกข์โศก น้ำตานองหน้าเพียงใด ประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต้องดำรงต่อไป อย่าให้การสูญเสียครั้งนี้ทำให้พระราชปณิธานของพระองค์ท่านต้องหยุดชะงักลง
การแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยที่ดีที่สุด คือ การเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานที่จะรักษาเอกราช ประชาธิปไตย ความสมบูรณ์พูลสุข และความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท
แถลงการณ์สํานักพระราชวัง
ข่าวในหลวง
สำหรับผมท่านยังอยู่ในใจเสมอ ภูมิใจที่เกิดมาทันในร่มบารมีของพระโพธิสัตว์อย่างพระองค์ท่านครับ
ในหลวงของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบริบาล สุขสราญด้วยความร่มเย็น
ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙ : I was born in the reign of King Rama IX of Thailand
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)